บันทึกการเดินทาง > เที่ยวกาญจนบุรี - วัดถ้ำเสือ
วันหยุดยาวพิเศษของเดือนตุลาคม
และเป็นช่วงออกล่าทริปของนักเดินทางหลายๆ ท่าน ถึงแม้ช่วงนี้จะมีเม็ดฝนโปรยปรายลงมาบ้าง
แต่ผมเชื่อว่ามันไม่ได้เป็นอุปสรรคของชาวเราแม้แต่น้อย ใช่ไหมละครับ
ทริปนี้เราตั้งใจไว้ว่าจะเดินทางไปพักผ่อนเที่ยวชมธรรมชาติ
ชมวิถีชีวิตของผู้คนในจังหวัดแถบชายแดนภาคตะวันตก
เมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีวัฒนธรรม
ที่หลากหลายอย่างจังหวัดนี้ครับ "กาญจนบุรี"
การเดินทางของเราเริ่มต้นจากกรุงเทพฯ โดยรถส่วนตัว มีจุดหมายปลายทางของวันนี้อยู่ที่
สะพานมอญ สังขละบุรี
ซึ่งเราก็ได้สำรองที่พักไว้ล่วงหน้าแล้วเป็นแรมเดือน และวางแผนไว้อย่างดิบดี แต่ก็นั่นแหละครับ
แผนก็คือทฤษฎีที่คาดการณ์ล่วงหน้าเท่านั้น เอาเป็นว่าทริปนี้ เราจะใช้วิถีปฏิบัติให้ใกล้เคียงกับแผนมากที่สุด เอ้า เริ่มออกเดินทางกันเลย
พิกัดแรกของวันนี้ เราตั้งใจไป วัดถ้ำเสือ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรีครับ
จาก กทม. เราขับรถขึ้นทางด่วนที่บางนา มุ่งหน้าสู่แจ้งวัฒนะ (50บาท) เมื่อลงจากทางด่วน ก็วิ่งตามถนนหมายเลข (304) กรุงเทพ-บางกรวย-ไทรน้อย (3215)
ขับมาจนถึงสี่แยกไทรน้อยก็เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ถนน (346) มุ่งหน้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี
เมื่อขับมาถึง ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา ให้สังเกตทางแยก ตู้ยามพระแท่น ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปตามถนน
3081 ขับไปเรื่อยๆ จนเจอสี่แยกไฟแดง แล้วเลี้ยวขวาขับไปตามแผนที่
หากได้ข้ามสะพานแม่กลอง ถือว่ามาถูกทางแล้ว
พิกัด GPS วัดถ้ำเสือ @13.9542745, 99.5996705
ขับรถเข้าไปบริเวณลานจอดรถของวัด แน่นอนครับ ในช่วงวันหยุดแบบนี้ จะหาที่จอดใกล้ๆ ไม่ได้เลย
ขับรถวนกลับมาที่หน้าประตูวัด 1 รอบ ตัดสินใจขับเข้าไปจอดใน วัดถ้ำเขาน้อย
ตั้งอยู่ข้างๆ กันกับวัดถ้ำเสือ ซึ่งมีลานกว้างพอ และสามารถจอดรถได้ฟรี บางจุดมีร่มต้นไม้ให้ด้วย
จากที่จอดรถเดินเข้ามาถึงประตูวัด ก็ไม่ไกลครับ ประมาณ 50เมตร แต่อากาศหนะสิ จะร้อนไปไหน
บริเวณหน้าวัด จะมีร้านอาหาร ร้านขนมของขบเคี้ยว ร้านขายของชำ และมีร้านจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกอีกมากมายบริการแก่นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ
วัดถ้ำเสือ ที่เคยเห็นแต่ในภาพจากเว็บไซต์ โซเซียลมีเดียต่างๆ
วันนี้ได้มีโอกาสเห็นกับตาตัวเอง ขอเก็บภาพไปฝากเพื่อนๆ หน่อยละกัน
บันไดทางขึ้นค่อนข้างชันและแคบครับ มีการแบ่งเลนจราจรไว้ชัดเจน แต่..
ไม่ได้บอกว่า ขึ้น-ลง ใช้ช่องไหน ฉะนั้นเห็นคนขี้ ขี้ตามคนครับ
แต่เดี๋ยวนะ ข้างๆ บันไดทางขึ้น ก็มีรถมินิบัสไว้บริการครับ ค่าบริการท่านละ 10บาท และ 20 บาทสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ อย่างผม
แต่ด้วยงบประมาณที่จำกัด (จน) ก็เลยต้องเดินขึ้นตามอัตถภาพ โดยอาศัยสมรรถภาพที่เหลืออยู่ ครับผม
บันไดทางขึ้นวัดถ้ำเสือ มีจำนวนขั้นบันไดประมาณ 150 ขั้น ความชันระดับ 50-60 องศา หน้าบันไดค่อนข้างสั้นครับ
ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ พลาดพลั้งไปได้หงายหลัง ล้มทับกันเป็นโดมิโน่แน่นอน
แอบหันมองทางซ้าย คิดในใจ..เราช่างไร้วาสนาเสียจริง เดินจนน่องปูดแล้วเนี่ย
เดินมาสุดบันไดขั้นสุดท้าย ภาพแรกที่เห็น หลังจากหน้ามืด ก็คือภาพนี้เลยครับ
นอกจากวิหาร และพระประธานจะวิจิตร สวยสดงดงามแล้ว อุโบสถทางด้านขวาก็ไม่แพ้กัน
ระฆังก็มีนะครับ สำหรับคนที่ต้องการเบิกทางเอาโชคเอาชัยเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต
องค์พระประธานตั้งอยู่กลางแจ้ง ว่ากันว่าเป็นพระองค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนี้เลยหละครับ
ดูด้านหน้าแล้ว มาชมด้านหลังกันครับ
นอกจากองค์พระประธานด้านนอกแล้ว ภายในอุโบสถก็มีพระประธานองค์เล็กไว้ให้กราบไหว้สักการะบูชา
บรรยากาศด้านหลังอุโบสถ นทท. ก็คึกคักไม่แพ้ด้านหน้า
เดินชมบรรยากาศหลังวัด จากตรงนี้จะมองเห็นผืนนาเขียวขจีเป็นบริเวณกว้าง สลับทิวเขา วิวสวยงามมากครับ
วิวจากภาพมุมสูงจะมองเห็น เจดีย์เกษแก้วมหาปราสาท ตั้งสูงเด่น แลเห็นได้จากระยะไกล
ซึ่ง นทท. สามารถขึ้นไปชมวิวได้บนชั้น 8 แบบ 360 องศา และสามารถถ่ายภาพมุมฮิตของที่นี่ได้อีกด้วย
แต่สำหรับเรา คงไม่ได้ขึ้นไปครับ เพราะด้วยเวลาที่จำกัด และความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง
งานนี้ขอใช้อากาศนยานไร้คนขับ ขึ้นไปเก็บภาพมาฝากเพื่อนๆ กัน
ลากันไปด้วยภาพนี้ครับ ถ้ามีโอกาสจะแวะมาใหม่
ได้เวลาไปต่อแล้วครับ ฟิ้ววว
พิกัด GPS วัดถ้ำเสือ @13.9542745, 99.5996705
Next station จุดหมายต่อไป
เที่ยวกาญจนบุรี - ต้นจามจุรียักษ์ .. อ่านต่อ